บริการด้านการลงทุน

บริษัท หลักทรัพย์ คิงส์ฟอร์ด จำกัด (มหาชน)

ซื้อขายตราสารหนี้

บล.คิงส์ฟอร์ด ได้รับใบอนุญาตเป็นผู้ค้าตราสารหนี้จากสำนักงาน ก.ล.ต. และมีบุคลากรที่มีประสบการณ์อย่างยาวนานในตลาดตราสารหนี้ไทย


คอยให้คำปรึกษาสำหรับนักลงทุนที่สนใจปัจจุบัน มีบริการตราสารหนี้ในรูปแบบต่างๆ ดังนี้
  1. เป็นตัวแทนขายหุ้นกู้ที่ออกใหม่ ในตลาดแรก
  2. เป็นตัวกลางซื้อขายตั๋วแลกเงิน ระหว่างบริษัทเอกชนที่ออกตั๋ว และผู้ลงทุนที่สนใจ
  3. เป็นตัวกลางซื้อขายตราสารหนี้ ที่มีการเปลี่ยนมือในตลาดรอง
ผู้ที่สนใจลงทุน สามารถแจ้งความประสงค์  ระดับการยอมรับความเสี่ยง  มูลค่าเงินลงทุน  ระยะเวลาการลงทุน เพื่อรับคำแนะนำการลงทุนในตลาดตราสารหนี้ได้อย่างเหมาะสม
 

ซื้อขายตราสารหนี้

ตราสารหนี้ คือ ตราสารทางการเงินที่แสดงความเป็นหนี้ระหว่างกัน โดยผู้ลงทุนจะอยู่ในฐานะของการเป็น “เจ้าหนี้” (แตกต่างจากการลงทุนในหุ้นสามัญ ที่ผู้ลงทุนจะอยู่ในฐานะของการเป็น “เจ้าของ”)

ตราสารหนี้ แบ่งได้เป็นหลายประเภท ตามลักษณะของผู้ออกตราสาร  ได้แก่ 
  • หุ้นกู้  ออกโดยบริษัทเอกชน    (มีอายุ ณ วันที่ออก เกินกว่า 1 ปี)
  • ตั๋วแลกเงิน (บีอี)  ออกโดยบริษัทเอกชน    (มีอายุ ณ วันที่ออก ไม่เกิน 270 วัน)
  • พันธบัตร  ออกโดยหน่วยงานภาครัฐ     (มีอายุ ณ วันที่ออก เกินกว่า 1 ปี)
  • ตั๋วเงินคลัง  ออกโดยกระทรวงการคลัง    (มีอายุ ณ วันที่ ไม่เกิน 1 ปี)
เริ่มต้นลงทุนง่ายๆ ภายใน 3 ขั้นตอน

ขั้นตอนที่ 1  เปิดบัญชีเพื่อซื้อขายหลักทรัพย์    
(ตามข้อกำหนดของสำนักงาน ก.ล.ต.  ที่กำหนดผู้ลงทุนต้องเปิดบัญชีกับบริษัทหลักทรัพย์ก่อน จึงจะสามารถทำธุรกรรมใดๆได้) คลิก เปิดบัญชี เพื่อเปิดบัญชีซื้อขายหลักทรัพย์  หรือข้ามไปขั้นตอนที่ 2 หากท่านมีบัญชีกับ บล.คิงส์ฟอร์ด แล้ว   

ขั้นตอนที่ 2  ติดต่อผู้แนะนำการลงทุน หรือเจ้าที่ฝ่ายตราสารหนี้    
เพื่อแจ้งความประสงค์ที่จะซื้อขาย  /  ขอคำแนะนำการลงทุน  /  ยืนยันคำสั่งซื้อขาย โดยติดต่อผ่านทางโทรศัพท์ (บันทึกเสียงสนทนา)

ขั้นตอนที่ 3  ชำระเงินและส่งมอบตราสารหนี้  
ตามวิธีการที่เลือกไว้ในขั้นตอนเปิดบัญชี

- การชำระเงิน :   หักบัญชีเงินฝากอัตโนมัติ (ATS)  หรือ ชำระเป็นเงินโอน
- การส่งมอบตราสารหนี้ :   รับเป็นใบหุ้น หรือ โอนตราสารหนี้เข้าบัญชีหลักทรัพย์ (Port)
 

ผลตอบแทนจากการลงทุนในตราสารหนี้

ตราสารหนี้ ถือเป็นตราสารทางการเงินที่มีความเสี่ยงค่อนข้างต่ำ แต่ให้ผลตอบแทนสม่ำเสมอ  
โดยผู้ลงทุนในตราสารหนี้ จะได้รับผลตอบแทนจากการลงทุนใน 3 ลักษณะ คือ
  1. ดอกเบี้ย (Coupon)  ซึ่งกำหนดไว้ตั้งแต่วันที่ออกตราสาร  ตราสารหนี้ในปัจจุบัน ส่วนใหญ่มีกำหนดจ่ายดอกเบี้ยปีละ 2 - 4 ครั้ง
  2. ส่วนต่างของราคา  แทนที่จะถือตราสารหนี้เอาไว้จนถึงวันครบอายุ  (Capital Gain)   ผู้ลงทุนยังมีโอกาสที่จะขายตราสารหนี้เพื่อทำกำไร หากราคาตราสารหนี้ปรับตัวสูงขึ้น  โดยราคาตราสารหนี้ จะเคลื่อนไหวสวนทางกับทิศทางดอกเบี้ยในตลาด(ดอกเบี้ยลดลง = ราคาตราสารหนี้สูงขึ้น   / ดอกเบี้ยสูงขึ้น = ราคาตราสารหนี้ลดลง)
  3. ส่วนลด (Discount)   สำหรับตราสารหนี้ที่ไม่มีการจ่ายดอกเบี้ย เช่น ตั๋วแลกเงินระยะสั้นผู้ลงทุนจะได้รับส่วนลดทันที ณ วันที่ลงทุนในตราสารหนี้  ตัวอย่างเช่น จ่ายเงินเพื่อซื้อตราสารหนี้ที่ราคา 95 บาท และจะได้รับเงินคืนเมื่อตราสารหนี้ ครบกำหนดไถ่ถอนในอีก 6 เดือนข้างหน้า เป็นจำนวนเงิน 100 บาท ส่วนต่างจำนวน 5 บาท ถือเป็นส่วนลด ให้กับผู้ลงทุน
สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม
ติดต่อฝ่ายตราสารหนี้ โทร: 02-829-6999 ต่อ3640 -3644
E-mail : bond@kfsec.co.th